Review : [ 7 ประจัญบาน ] (2002)
กำกับโดย : เฉลิม วงค์พิมพ์
เขียนบท : ส.อาสนจินดา
อำนวยการสร้าง : สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
นักแสดงนำ : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
อัมรินทร์ นิติพน
พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ
ทศพล ศิริวิวัฒน์
พิเศก อินทรครรชิต
วิวัฒน์ แช่มรัมย์
ค่อม ชวนชื่น
สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์
ประกาศิต โบสุวรรณ
ดี๋ ดอกมะดัน
ปีเตอร์ หลุยส์ ไมอ็อกซิ
วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ
กุณฑีรา สัตตบงกช
ดนตรีประกอบ : -
หมวดหมู่ : แอ็คชั่น , ตลก-คอมเมดี้
ความยาว : 110 นาที
วันที่เข้าฉาย : 12 เมษายน พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002)
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง :
7 ประจัญบาน ภาพยนตร์สัญชาติไทยแนว ตลก-คอมเมดี้ และ บู๊แอคชั่น สุดมันส์พร้อมเสียงหัวเราะ จากการกำกับของ เฉลิม วงค์พิมพ์ ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 เมษายน ปี พ.ศ. 2545 โดยภาพยนตร์เรื่อง 7 ประจัญบาน เรื่องนั้นได้ถูกดัดแปลงจากภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของภาพยนตร์ชุดเรื่อง หนึ่งต่อเจ็ด ที่เคยออกฉายไปแล้วก่อนหน้าที่ โรงภาพยนตร์คาร์เธ่ย์ ในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2506
เรื่องย่อ :
กองพลทหารอาสาสมัครทั้ง 7 ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายใน สงครามเวียดนาม ก่อนที่พวกเขาจะเกษียณออกจากกองทัพ และ กลับมาใช้ชีวิตปกติธรรมดาต่อกับบรรดาญาติๆ และ ครอบครัวของพวกเขา แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นจนทำให้เหล่า 7 ประจัญบาน ต้องทำการออกโรงเพื่อปกป้องหมู่บ้านและคนที่รักให้ปลอดภัยจากทหารอเมริกัน หรือ G.I. เรื่องราววุ่นวายสุดตลกผสมความมันส์ บู๊ แอ็คชั่น จะจบลงอย่างไร ต้องติดตามกันต่อใน 7 ประจัญบาน
รีวิว :
หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ได้รับการดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจากหนังดังในอดีดกว่า 50 ปีที่แล้ว ซึ่งในครั้งนี้พวกเขาได้นำเอาเนื้อเรื่องหลักกลับมาสร้างใหม่ในรูปแบบของหนังตลก ผสม แอ็คชั่นคอมเมดี้ ทั้งสนุกและเข้มข้น นำโดยนักแสดงชื่อดังมากความสามารถในประเทศที่เรารู้จักกันดี
ในส่วนที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือการชูตัวละครหลักทั้ง 7 ตัว ให้มีความสามารถที่แตกต่างกันคล้ายๆ หนังรวมซุเปอร์ฮีโร่ ซึ่งท้ายสุดพวกเขาก็ต้องมารวมพลังความสามัคคีเพื่อเอาชนะเหล่าตัวร้ายนั่นเอง โดยเราแทบไม่ค่อยเห็นหนังแนวๆ นี้ของประเทศไทยประสบความสำเร็จมากนัก แต่หนังเรื่องนี้กลับทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดไว้
ในช่วงต้นเรื่องหนังจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวละครต่างๆ หมดทั้งทีมให้เรารู้ถึงความเป็นมา การใช้ชีวิต แต่ละคนมีความสามารถอะไร หนังจะบอก หรือใบ้เอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องเพื่อให้ผู้ชมอย่างเราๆ ได้เข้าใจเนื้อเรื่องและตัวละครได้ง่ายยิ่งขึ้น และหลังจากหนังแนะนำตัวละครเสร็๗หมดแล้วหนังก็จะเอาทั้งหมดมาบรรจบกันและรวมทีมแบบง่ายๆ งงๆ ก่อนจะเริ่มเดินเนื้อเรื่องหลังมีการใช้ฉากต่อสู้ แอ็คชั่นมากมาย ผสมกับเรื่องราวความตลกคอมเมดี้ ซึ่งไม่ใช่แค่มุขตลก แต่เป็นการแสดงต่างๆ ที่ทำให้ตลกยิ้มได้ ซึ่งปัจจุบันนั้นหาได้ยาก แต่หนังในอดีดกลับเต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศแบบนั้น
ท้ายสุดแล้วหนังแม้จะไม่ครบรส ครบเรื่อง บางส่วนอาจจะดูขาดๆ หายๆ หรือ บางส่วนจะดูเกินๆ มากไป อาจจะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง และ ไม่น่าติดตามบ้างในช่วงตอนกลางๆ แต่หลังจากนั้นก็จะเริ่มสนุกสนานมากขึ้นเรื่อยๆ เองนั่นแหละ
สรุป :
เป็นหนังที่สนุกดีมากๆ สามารถดู ทำให้เราเพลิดเพลินได้จริงๆ เหมาะที่จะเอาไว้ดูวันหยุดเพื่อผ่อนคลาย หรือ จะเอาไว้รับชมในเวลาว่างก็ได้เหมือนกัน รับรองว่าคุ้มค่าแน่ๆ แนะนำเลยครับหนังไทยอีกเรื่องที่ควรดูเลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น