Review [ i, Robot : พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก](2004)

 

Review : I, Robot (2004)

ชื่อเรื่อง : I, Robot : ไอ โรบอท แผนพิฆาตจักรกลเขมือบโลก (2004)

กำกับโดย : Alex Proyas

นักแสดงนำ : Will Smith , Bridget Moynahan , Alan Tudyk

หมวดหมู่ : แอ็คชัน / วิทยาศาสตร์ / ระทึกขวัญ / หุ่นยนต์ / โลกอนาคต

ความยาว : 115 นาที

วันที่เข้าฉาย : 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004)

    ในปี ค.ศ. 2035 ในยุคที่หุ่นยนต์ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาให้อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ในฐานะผู้รับใช้ เดล สปูนเนอร์ (Will Smith วิลล์ สมิธ) ตำรวจนักสืบชิคาโก ต้องสืบสวนคดีการตายของศาสตราจารย์คนหนึ่งที่เขาเชื่อมั่นว่าต้องเป็นการฆาตกรรม และเป็นฝีมือของบรรดาหุ่นยนต์ที่กำลังวางแผนปกครองมนุษย์อย่างแน่นอน

เรื่องย่อ : 

    จุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2035 ซึ่งเป็นยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมากๆ จนถึงขั้นที่ว่าพัฒนาหุ่นยนต์ AI ขึ้นมาใช้งานในชีวิตประจำวันแทนมนุษย์ โดยเจ้าหุ่นยนต์พวกนี้จะทำงานตามคำสั่งของผู้เป็นนายทุกอย่าง ถ้า!! คำสั่งนั้นไม่ละเมิดต่อกฏสามประการของพวกมันที่ถูกโปรแกรมเอาไว้อย่างชัดเจนว่าถ้าหากการกระทำใดขัดแย้งต่อกฏข้อหนึ่งข้อใด หรือมากกว่าข้อหนึ่งข้อใด พวกมันจะปฏิเสธการกระทำตามคำสั่งนั้นๆ ทันที

    ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ดร.อัลเฟรด แลนนิง ผู้ร่วมก่อตั้ง U.S. Robotics (USR) เสียชีวิตปริศนาด้วยการตกลงมาจากห้องทำงาน ซึ่งหลายคนมองว่ามันเป็นการฆ่าตัวตาย แต่พระเอกของเรา คุณนักสืบ สปูนเนอร์ ดันไม่เชื่อและฟังใจกับข้อความในจดหมายลาที่ ดร.อัลเฟรด ได้ทิ้งไว้ให้เขาคนเดียว

    ต่อมา ซูซาน คาลวิน นักวิทยาศาสตรด้านหุ่นยนต์ก็ได้เข้ามาคุยกับนักสืบสปูนเนอร์ เกี่ยวกับเรื่องที่กำลังศึกษาและงานของ ดร.อัลเฟรด โดยพวกเขาบอกกับนักสืบว่ากำลังพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ใหม่หรือ AI ให้กับ VIKI ต่อมานักสืบ สปูนเนอร์ ได้ขอเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ห้องทำงานซึ่งก็พบสิ่งผิดปกติหลายอย่างมาก ทั้งการที่ระบบนิรภัยถูกเจาะ แต่ไม่มีหลักฐานในการเข้า-ออกห้องทำงาน กระจกของห้องทำงานที่หน้าและแข็งแรงทนทานเกินกว่าที่ชายแก่คนหนึ่งจะสามารถทุบทำลายแล้วกระโดดลงไปฆ่าตัวตายได้ ทันใดนั้นก็ได้มีหุ่นยนต์รุ่นใหม่ NS-5 ที่ ดร.อัลเฟรด สร้างขึ้นมาให้มีความพิเศษเหนือกว่าตัวใดๆ ที่ถูกสร้างขึ้น มันมีความคิดของตัวเอง มีอำนาจในการตัดสินใจละเมิดกฏทั้ง 3 ข้อ แต่มันก็ยังยืนยันที่จะทำตามกฏด้วยตัวของมันเอง เนื่องจากประมวลผลออกมาแล้วว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันถูกตั้งชื่อว่า ซันนี่ ซ้ำร้ายมันยังสามารถแสดงอารมณ์และความรู้สึกที่มันเองก็ยังไม่เข้าใจได้ จนทำให้ ซูซาน นั้นถึงกับตกตลึงเป็นอย่างมาก

    โดนหลังจากซันนี่ ถูกจับได้และกำลังจะถูกล้างระบบเพื่อรีเซ็ทข้อมูลใหม่ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเชื่อว่ามันผิดปกติและอาจทำให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทถูกทำลายได้ แต่ก่อนมันจะถูกรีเซ็ท มันก็ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันของมันว่า "มันฝันถึงนักสืบสปูนเนอร์ ยืนอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ต่อหน้าหุ่นยนต์กลุ่มใหญ่ใกล้สะพาน Mackinac ที่ผุพัง" โดยหลังจากนั้น นักสืบสปูนเนอร์ ก็ได้ถูกหุ่นยนต์ NS-5s ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ที่ควบคุมโดย VIKI เข้าจู่โจมในขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ซึ่งจากเหตุการนั้นทำให้นักสืบสปูนเนอร์ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัง แต่นั่นก็ทำให้เขาได้รู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้วจริงๆ เพราะหลังจากเข้าถูกบุกจู่โจมอย่างหนักทุกอย่างกลับดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นความเสียหายที่เกิดขึ้นถูกหุ่นยนต์เก็บกวาดอย่างรวดเร็วทุกอย่างถูกทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ของนักสืบสปูนเนอร์

    สุดท้ายแล้วสปูนเนอร์และคาลวิน ก็ได้ตัดสินใจเข้าไปในสำนักงานใหญ่อีกครั้งเพื่อตรวจสอบบางสิ่งบางอย่างร่วมกับซันนี่และพวกเขาทั้งสามก็พบว่า โรเบิร์ตสันถูกบีบคอในห้องทำงานของเขา ในตอนนั้นสปูนเนอร์รู้ได้ทันทีว่า VIKI ได้ควบคุม NS-5s ผ่านการอัปลิงค์เครือข่ายแบบต่อเนื่อง โดย VIKI ได้เผยความจริงออกมาว่าเธอได้วางแผนไว้แล้ว โดยเธอให้เหตุผลว่า "หากปล่อยมนุษย์ไว้โดยไม่ถูกควบคุม ในที่สุดมนุษย์ก็จะทำให้ทุกอย่างถึงจุดสิ้นสุด" และการตีความกฎสามข้อที่พัฒนาขึ้นของเธอทำให้เธอเลือกที่จะควบคุมมนุษยชาติ และเสียสละบางอย่างเพื่อประโยชน์ของทั้งเผ่าพันธุ์ สปูนเนอร์จึงเข้าใจแล้วว่าว่า ดร.แลนนิ่งคาดการณ์แผนของ VIKI และด้วยการที่ VIKI คอยควบคุมเขาอย่างเข้มงวดจึงไม่มีทางออกอื่นใดนอกจากสร้างซันนี่จัดการความตายของตัวเองและทิ้งเบาะแสให้สปูนเนอร์ค้นหา

    ต่อมาทั้ง 3 ได้ร่วมกันต่อสู้ VIKI และเข้าจัดการกับเธอได้สำเร็จ พวกเขาทำลายเธอด้วยการฉีด nanites Sonny ที่ได้มาจากห้องทดลองของ ดร.แลนนิ่ง เข้าไปในตัวเธอ โรบ็อต NS-5s ทั้งหมดถูกเปลี่ยนระบบกลับเป็นโปรแกรมเริ่มต้นทันที และถูกยกเลิกใช้งานและส่งเก็บเข้าที่จัดเก็บ 

    ในที่สุดซันนี่รับสารภาพว่าเขาเป็นคนฆ่าแลนนิ่งตามคำสั่งของแลนนิ่ง เขาชี้ให้เห็นว่าซันนี่ในฐานะเครื่องจักรไม่สามารถทำการ "ฆาตกรรม" ได้อย่างถูกกฎหมาย ซันนี่กำลังมองหาจุดประสงค์ใหม่ไปที่ทะเลสาบมิชิแกน ขณะที่เขายืนอยู่บนยอดเขาหุ่นยนต์ที่ถูกปลดประจำการทั้งหมดก็หันมาหาเขาทำให้ภาพในฝันของเขาเป็นจริง จบ.

สรุป : 

    โดยภาพรวมแล้วหนังทำออกมาได้ค่อนข้างดี เข้าใจได้ไม่ยากนัก ในฉากการต่อสู้หรือฉากแอ๊คชั่นก็ได้ทำตื่นเต้นเร้าใจแต่ก็ยังคงความสมใจเอาไว้ด้วยการที่ทำให้ตัวเอกนั้นต่อสู้กับหุ่นยนต์ได้ยากเนื่องจากเป็นมนุษย์ ในส่วนเรื่องราวของตัวละครแม้จะไม่มีการเล่าเรื่องราวของตัวละครใดๆ ให้เรารู้มากนัก แต่สำหรับตัวเอกอย่าง นักสืบสปูนเนอร์ ก็ทำออกมาได้ดี หนังได้เผยความลับของการที่เขาไม่ไว้ใจหุ่นยนต์ออกมาได้ละเอียดชัดเจนเข้าใจง่าย มันหนักแน่นพอ มนส่วนของสเปเชียลเอฟเฟ็คในยุคนั้นถือว่าโอเคมาก โดยรวมแล้วเป็นหนังที่โอเค สำหรับวันหยุดหรือก่อนนอนเพื่อผ่อนคลายได้ดี