Review [Shin Godzilla : ชิน ก็อตซิลล่า](2016)


Review : Shin Godzilla (2016)

ชื่อเรื่อง : Shin Godzilla : ชิน ก็อตซิลล่า [Godzilla: Resurgence] (2016)
กำกับโดย : Hideaki Anno และ Shinji Higuchi
นักแสดงนำ : Hiroki Hasegawa , Yutaka Takenouchi , Satomi Ishihara , Godzilla
หมวดหมู่ : แอ็คชัน / วิทยาศาสตร์ / ระทึกขวัญ / การเมือง / สัตว์ประหลาด
ความยาว : 120 นาที
วันที่เข้าฉาย : 25 กรกฎาคม 2016

    ในปี 2016 ทางญี่ปุ่นได้นำอสูรกายที่ตนเองสร้างมาเป็นเวลา 62 ปี กลับมาผงาดเองอีกครั้งในฉบับรีบู้ทให้ใหญ่กว่าเดิมนั่นก็คือ Shin Godzilla : ชิน ก็อตซิลล่า [Godzilla: Resurgence] โดยสตูดิโอ TOHO ซึ่งการรีบู้ทในรอบนี้นั้นสร้างความน่าประหลาดใจพร้อมทั้งน่าตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าแฟนๆ ตั้งแต่หนังยังไม่ฉายด้วยการที่คว้าเอา 2 สุดยอดผู้กำกับอย่าง ฮิเดะอากิ อันโนะ (Hideaki Anno) จาก แฟรนไชส์อนิเมชั่นเรื่องดัง Neon Gensis Evangelion ร่วมด้วย ชินจิ ฮิกุชิ (Shinji Higuchi) ผู้กำกับจาก Attack on Titan แค่ชื่อของผลงานจากทั้ง 2 ผู้กำกับนี้ก็การันตีความสุดยอดได้แล้ว ซึ่งทั้ง 2 จะมาทำให้ก็อดซิลล่าในภาคที่ 29 และถือเป็นภาคแรกในรอบ 12 ปีจาก TOHO ได้มาคำรามก้องให้แฟนๆ ที่ติดตามมาตลอดได้ดิ้นตายกัน

เรื่องย่อ : 
    เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่มีความผิดปกติบริเวณอ่าวโตเกียว โดยมีความผิดปกติเกิดขึ้นเป็นกลุ่มควันและพบน้ำทะเลบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง และในเวลาต่อมาได้ตรวจพบสิ่งมีชีวิตในกลุ่มควันต้องสงสัยนั้นจนส่งผลให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในระบบ Tokyo Bay Aqua-Line (อุมองทางลอดใต้ทะเล) แต่เรื่องกลับถูกปกปิด จนกระทั่งหายนะครั้งใหญ่ได้ปะทุรุนแรงขึ้น จากแรงสั่นสะเทือนที่มาพร้อมเสียงคำรามกึกก้องของอสูรกายขนาดมหึมา เริ่มจากชายฝั่งในเขตคามากุระ จังหวัดคานากาว่า ไปจนถึงกรุงโตเกียว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัตว์ประหลาดยักษ์ท่าที่อ่อนแอ กลับวิวัฒนาการตัวเองและกลับมาในร่างอวาตารของพระเจ้า “ก็อดซิลล่า” กลับมาปรากฏตัวและทำให้ญี่ปุ่นทั้งเมืองต้องตกอยู่ในความโกลาหลอีกครั้ง มหันตภัยครั้งร้ายแรงของญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นจากหลากหลายหน่วยงาน ร่วมด้วยความช่วยเหลือจากต่างประเทศจะผนึกกำลังกัน เพื่อรับมือและหยุดยั้งความสูญเสียจากการทำลายล้างของสิ่งมีชีวิตสุดน่ากลัวอย่าง ก็อดซิลล่า หรือ โกจิระ ให้จงได้ 

รีวิว :
    แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่มี Godzilla หรือ สัตว์ประหลาดยักษ์เป็นตัวชูโรง เป็นเหมือนดาวเด่นของหนังที่ทุกคนล้วนต่างอยากพากันไปดูเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ชมเลยก็ว่าได้ แต่หนังเรื่องนี้พอเอาเข้าจริงแล้วเนื้อเรื่องนั้นกลับเป็นหนังแนวการเมืองซะส่วนใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นคนที่ไม่เคยดูหนัง Godzilla ของทางญี่ปุ่นมาก่อนไม่ใช่แฟนซีรีส์นี้อาจจะเข้าขั้นเบื่อและบอกลาไปเลยก็ได้ นั้นก็เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนญี่ปุ่นซะมากกว่าซึ่งเราจะได้เห็นฉากการสนทนา การวางแผน การจัดการ การรับมือต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่ามากกว่าเห็น Godzilla เลยด้วยซ้ำ แต่นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะถ้าเทียบกับหนังสัตว์ประหลายเรื่องอื่นๆ แล้วเราแทบไม่ได้เห็นมุมนี้จากหนังเรื่องอื่นเลย ที่ว่ามานี้คือเรื่องการวางแผนรับมือนะครับ โดยหนังจะแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการวางแผน การทำงานของระบบรัฐบาลญี่ปุ่นแบบแทบจะเป็นขั้นตอนเลยก็ว่าได้ โดยเน้นให้ประชาชนมาก่อน การประชุม การประกาศข่าวให้ประชาชนได้ทราบ ทุกอย่างคือแบบเป็นระบบที่ดีมากๆ รวดเร็วเอื้อหนุนกันเสนอทางแก้ถกเถียงและหาทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งเราแทบไม่ได้เห็นเหตุการแบบนี้จากหนังเรื่องอื่นที่สัตว์ประหลากบุกโลก 
    โดยฉากต่างๆ ในหนังสำหรับคนที่ดูในภาคนี้อาจจะออกอาการเวียนหัวและลายตาเล็กน้อยเนื่องจาก สไตล์การดึงเอาความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวในแบบอันโนะนั้นจะมีการใช้มุมกล้องที่ฉากให้เห็นตัวละครเวลาที่ตัวละครพูดหรือแสดงอารมณ์ที่ละตัวละคร มากกว่าเป็นฉากที่สนทนาแล้วมีตัวละครในเฟรมมากกว่า 2 ตัวขึ้นไป กล้องเลยจะฉายสลับไปมาหลายรอบหน่อย แต่มันจะทำให้ได้อารมณ์กดดัน บีบขั้นต่อสถานการณ์มากขึ้น แต่ในหลายๆ มุมก็ยังให้อารมณ์คล้ายๆ กับดูซีรีส์ Evangelion อยู่เลยเป็นกลิ่นอายที่กดดันความรู้สึกเอามากๆ
    ในส่วนของคอมพิวเตอร์กราฟฟิคหรือ CG ตัว Godzilla ก็ถือว่าทำได้ดีแม้ว่าในช่วงที่ยังเป็นตัวอ่อนหรือร้างก่อนวิวัฒนาการมาเป็น Godzilla นั้นจะดูแปลกๆ และไม่ค่อยสมจริงไปหน่อยแต่ก็เป็นช่วงเวลาไม่นานนักจนกระทั่ง Godzilla นั้นโพล่ขึ้นมาใหม่ และอีกอย่างหนึ่งที่จะกล่าวเลยก็คือไม้เด็ดของตาอันโนะ ที่ใช้ฉากแสงสีกับพลังใหม่ที่โอเวอร์มากๆ แต่ก็ยังมีขีดจำกัดนั้นเรียกได้ว่าลงตัวเอามากๆ ซึ่งหากเราคิดว่าในภาคนี้ฉากปล่อยพลังจะดูเหมือนภาคเก่าๆ ก่อนหน้านั้น เรียกได้ว่าคิดผิดอย่างแรง ซึ่งครั้งแรกที่มันได้โชวน์พลังนี้อาจจะเริ่มเหมือนปกติ แต่หลังจากนั้นมันคือไม้เด็ดจริงๆ แสงเลซอร์สีเข้าแถมสว่างรุนแรง เส้นเล็กแต่ประสิทธิภาพการทำลายล้างสูง ปล่อยออากจากปากของ Godzilla ผสมกับซาวน์ดนตรีที่ส่งให้คนดูรู้สึกถึงความสิ้นหวังในการต่อกรกับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ คือถ่ายถอดออกมาได้เต็มรูปแบบเอามากๆ ฉากการระเบิดทำลายอาคารบ้านเรือนคือได้ดียิ่งกว่านั้นคือเหตุการที่รัฐบาลได้เร่งอพยบผู้คนออกไปแล้วมันทำให้เรารู้สึกได้ว่ารายละเอียดมันสมเหตุสมผลและจริงจังมาก
    และในส่วนสุดท้ายนี้ขอพูดถึงตัวของ Godzilla ในเวอร์ชั่น Shin Godzilla กันหน่อย โดยอยากบอกเลยว่าเจ้าตัวนี้เป็นตัวที่ผมแอบชอบมากๆๆๆ เลยก็ว่าได้เพราะในความที่มันยังมีกลิ่นของ Godzilla ที่เป็นเพียงสัตว์อยู่ผสมกับการวิวัฒนาการที่สุดยอดของมัน มันไม่ได้เผยตัวออกมาเป็นสัตว์ประหลาดยัดที่มีพลังทำลายล้างสูงตั้งแต่แรก มันแสดงให้เห็นหลายอย่าง การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อต่างๆ มันดีกว่า God ver อื่นมากๆ แม้งจะแข็งแกร่งแต่ก็มีจุดอ่อนซึ่งนั้นเป็นข้อดีที่อันโนะใส่ไว้ในสัตว์ประหลาดทุกตัวที่เขาสร้าง เจ้า Godzilla ตัวนี้แม้กระสุนและระเบิดจะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ก็ยังมีฉากที่มีการทิ้งระเบิด N2 ใส่แล้วสามารถเจาะทะลุผิดหนังของมันได้ แสดงให้เห็นว่ามีหนทางเอาชนะมันได้แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง ทีเด็ดของ Godzilla ตัวนี้ไม่ได้อยู่ที่พลังแต่เป็นเรื่องของ "วิวัฒนาการ" ซึ่งหากมันสามารถเรียนรู้และเอาตัวรอดจากเหตุการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับมันได้ มันจะวิวัฒนาการตัวเองซ่อมแซมปรับปรุงส่วนที่เป็นจุดอ่อนเพื่อแก้ไขจุดนั้นและนั่นทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หากจะกล่าวก็คงจะเรียกได้ว่า "ถ้าฆ่ามันไม่ตายในครั้งเดียว ครั้งต่อไปมันจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ" ซึ่งสุดท้ายแล้วทางเราก็สามารถหาโอกาสหยุดเจ้า Shin Godzilla ได้ในที่สุดด้วยการแช่แข็งมันในตอนที่มันจำศีลหลังจากใช้พลังไปจนหมดนั่นเอง
สรุป : 
    หนังเรื่อง Shin Godzilla เนี่ยเป็นหนังที่ออกแนวการเมืองเอามากๆ ไม่ค่อยได้เห็นฉากต่อสู้หรือแสดงพลังมากเท่าไหร่ แต่ในตอนที่ได้ต่อสู้หรือแสดงพลังก็เรียกได้ว่าตื่นตาตื่นในมากๆ สำหรับคนที่อยกาดูสัตว์ประหลาดแสดงพลังหรือต่อสู้ยิงอาวุทธใส่ยับๆ เรื่องนี้ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก แต่สำหรับคนที่มีนิสัยชอบคิดตามหรือว่าวิเคราะห์หนังตามเนื้อเรื่อง แนะนำให้ดูไว้เลยครับเพลิดเพลินเอามากๆ แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่าหนังต้องถูกทำให้สั้นพอเหมาะกับรอบการฉายนี่แหละเลยทำให้มันดูรวบรัดมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น แต่โดยรวมแล้วสนุกแน่ครับไม่ใช่แค่หนังสัตว์ประหลาดธรรมดา

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม