Review [A.I. Artificial Intelligence : จักรกลอัจฉริยะ] (2003)

 

Review :  A.I. Artificial Intelligence : จักรกลอัจฉริยะ (2001)

ชื่อเรื่อง : A.I. : จักรกลอัจฉริยะ
กำกับโดย : Steven Allan Spielberg (สตีเวน สปีลเบิร์ก)
ดัดแปลงจาก : Supertoys Last All Summer Long
นักแสดงนำ : ฮาลีย์ โจเอล ออสมอนด์, ฟรานเชส โอ คอนเนอร์ ,จูด ลอว์ ,แซม โรบาร์ดส ,วิลเลียม เฮิร์ต , เจก โทมัส 
หมวดหมู่ : ไซไฟ / วิทยาศาสตร / ดราม่า 
ความยาว : 146 นาที
วันที่เข้าฉาย : 29 มิถุนายน ค.ศ. 2001

เรื่องย่อ : 
    เนื้อเรื่องจะกล่าวถึงโลกในอนาคตอันใกล้ แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกได้ละลาย และผลที่ตามมาคือปริมาตรน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เมืองชายฝั่งทั้งหมดนั้นจมน้ำไป เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป จนถึงขั้นพวกเขาได้สร้างหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์จริงซึ่งถูกเรียกว่า Mechas เพื่อสนองต่อความจ้องการของมนุษย์ที่ยังเหลือรอดอยู่ บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรแห่งหนึ่งได้สร้างเดวิด หุ่นยนต์เด็กซึ่งเป็นคนแรกที่มีความรู้สึกที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด โมนิกา โมนิกา เป็นผู้หญิงที่รับเลี้ยงหุ่นยนต์เดวิดมาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อมาทดแทนลูกชายของเขา ซึ่งอยู่ในภาวะเยือกแข็ง (cryo-stasis) เพราะอาการป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่หาย เดวิดใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับโมนิกาและสามีของเธอ แต่เมื่อลูกชายแท้ๆ ของพวกเขากลับบ้านหลังจากค้นพบวิธีรักษา ชีวิตของเดวิดก็เปลี่ยนไปอย่างมากจนนำไปสู่เรื่องราว น่าอัศจรรย์ต่างๆ

รีวิว :
    หนังเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยความสดใสคล้ายหนังครอบครัวที่อบอุ่น เล่าเรื่องได้เรียบง่าย และค่อยๆ เผยถึงจุดดราม่าออกมาทีละเล็กน้อย โดยหนังจะค่อยๆ บีบความรู้สึกขึ้นเรื่อยๆ และตัดจุดดราม่าโดยการที่ทำลายความสุขของตัวละครหลักแบบที่ว่าคนดูก็จุกไปตามๆ กัน ซึ่งหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็จะดำเนินต่อไปจนเข้าสู่ช่วงกลางเรื่ิอง
    ในส่วนตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไปแนวเนื้อเรื่องนี่ออกจะคล้ายกับหนังผจญภัยและตามหาความลับ ไขความลับ ซะมากกว่า เนื่องจากตัวละครหลักอย่า เดวิด นั้นต้องออกเดินทางไปยังเมืองต่างๆ เพื่อตามหาแม่ของเขา โดยระหว่างเดินทางเขาจะต้องพบเจอกับทั้งผู้คนต่างๆ และหุ่นยนต์มากมาย ทั้งหวังดีและประสงค์ร้าย โดยเขาออกเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อหาคำตอบว่าแม่ของเขาอยู่ไหน โดยในระหว่างเดินทางนั้นเขาได้นึกถึงนิทานเรื่องหนึ่งที่แม่ของเขาเคยเล่าให้ฟัง และเขาก็นึกขึ้นได้ว่า "ถ้าหากเขากลายเป็นเด็กมนุษย์จริงๆ ขึ้นมาแต่จะต้องกลับมารักเขาและตามหาเขาแน่ๆ" เป้าหมายของเดวิดเรื่อมเปลี่ยนไปแต่ก็ยังจุคประสงค์เดิม คือ ความต้องการที่จะอยู่กับแม่อย่างมีความสุข
    โดยหลังจากนั้นเดวิดต้องออกเดินทางคนเดียว เพื่อตามหาเทพธิดาที่จะบันดาลพรให้เขากลายเป็นเด็กจริงๆ เขาเดินทางออกไปสุดขอบโลกจนกระทั่งไปจนถึงจุดที่คิดว่ามีเทพธิดาอยู่ แต่สถานที่แห่นนั้นคล้ายกับเป็นเมืองเก่าที่ถูกน้ำถ่วมไป ซึ่งปรากฏรูปปั้นของพระแม่มารีที่เดวิดคิดว่าเป็นเทพธิดาอยู่ และเขาได้ขอพรกับเทพธิดาจนกระทั่งรูปปั้นนั้นได้พังทลายลงด้วยความเปราะบางของมัน แต่เดวิดยังคงมีความหวังและพยายามขอพรต่อไปเรื่อยๆ
    จนกระทั่งช่วงท้ายของเรื่องจากครั้งล่าสุดที่เดวิดพยายามขอพรให้ตัวเองเป็นเด็กมนุษย์จริงๆ ใต้ทะเลลึกเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปหลายร้อยปี จนกระทั่งเผาพันธ์ที่มีวิวัฒนาการโพล่เข้ามาและพบเจอกับเดวิดใต้ชั้นน้ำแข็งลึกที่ถูกผ่านออกด้วยวิทยาการของพวกเขา ซึ่งเดวิดอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าหมดอายุเนื่องจากพลังงานหมดและเหตุผลอื่นๆ พวกเขาได้ตรวจสอบและเข้าถึงเดวิดจนสุดท้ายพวกเขาได้บันดาลพรสุดท้ายให้เดวิดได้สมหวังในห่วงความฝันของหุ่นยนต์ ในฝันนั้นเดวิดได้ตื่นขึ้นในบ้านของตัวเองและได้พบกับนางฟ้าเทพธิดาและได้รับพรดังที่เขาปราถนา หลังจากได้พรเขาก็ได้วิ่งเข้าไปที่ห้องนอนของแม่เขาและปรากฏเธอนอนออยู่บนเตียง เดวิด รีบมุ่งเขาไปหาด้วยความดีใจทั้งสอบเริ่มต้นความสุขของตัวเองในห่วงของความฝันจนกระทั่งเข้านอน และหนังก็จบไป 
    ซึ่งในช่วงนี้ได้หนังได้ตอบแทนคนดูด้วยความอบอุ่นจอมปลอมแต่ทำให้ฝันของตัวละครหลักนั้นเป็นจริง แต่มันกลับเกิดขึ้นในรูปแบบของความฝัน ซึ่งมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงที่ว่า เดวิด ถูกทิ้งเพราะเขาเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่สามารถมาแทนลูกของเขาได้จริงๆ และสุดท้ายเดวิดก็ยังคงอยู่คนเดียวตลอดกาล มันสร้างความรู้สึกหดหู่ให้กับความอบอุ่นที่ตัวละครได้รับในช่วงท้ายมากๆ หนังอาจทำให้คุณต้องหลั่งน้ำตาหลังจากดูจบแล้วคิดย้อนทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น
    โดยรวมแล้วถือเป็นหนังที่ดีมากๆ เนื้อเรื่องของความรักที่แท้จริงที่ทุกคนตามหาแต่ว่าไม่ต้องการจนสุดท้ายต้องทำให้ทุกคนเช็ดน้ำตา เป็นหนังที่แนะนำให้ดูได้เวลาว่าง สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูควรหาเวลาดูเพราะเป็นหนังที่ดีจริงๆ ครับ .

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม