Review [ THE GRAND BUDAPEST HOTEL : คดีพิสดารโรงแรมแกรนด์บูดาเปสต์ ] (2014)

 


Review :  THE GRAND BUDAPEST HOTEL : คดีพิสดารโรงแรมแกรนด์บูดาเปสต์

ชื่อเรื่อง : THE GRAND BUDAPEST HOTEL : คดีพิสดารโรงแรมแกรนด์บูดาเปสต์ (2014)
กำกับโดย : เวส แอนเดอร์สัน
นักแสดงนำ : เรล์ฟ ไฟนส์ , เซอร์ชา โรนัน , เอเดรียน โบรดี , โทนี่ เรฟโวโลรี , จู๊ด ลอว์ และอื่นๆ
หมวดหมู่ : ฆาตกรรม / นิยายเล่าเรื่อง / คอมเมดี้
ความยาว : 100 นาที
วันที่เข้าฉาย : 6 กุมภาพันธ์ 2014 (เบอร์ลิน)

เรื่องย่อ : 
    เรื่องราวเริ่มต้นจากในสุสานแห่งหนึ่งในประเทศ Zubrowka เด็กสาวคนหนึ่งไปเยี่ยมชมรูปปั้นลำรึกของนักเขียนชื่อดังคนหนึ่งที่รู้จักกันในนาม "Author" และอ่านหนังสือที่เขารักมากที่สุด : The Grand Budapest Hotel ที่เขียนขึ้นในปี 1985 ซึ่งเนื้อเรื่องทั้งหมดภายในหนังสือเล่มนั้นคือเรื่องราวทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเข้าพักห้องพักแห่งหนึ่งของเขาในโรงแรมที่ครั้งนึง เคยมีคววามยิ่งใหญ่มากในปี 1968 ซึ่งต่อมาโรงแรมที่เคยยิ่งใหญ่แห่งนี้กลับน่าเบื่อหน่ายและเงียบเหงา ที่นั่น ทุกคนในโรงแรมใหญ่แทบจะรู้จักกันและจำกันได้เนื่องจากมีผู้เข้าพักน้อยมาก และในวันนั้นเขาได้พบกับเจ้าของโรงแรมใหญ่แห่งนี้ชื่อ Zero Moustafa ซึ่งเขาทั้งสองได้พูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะมีนัดดินเนอร์กันและในเย็นวันนั้นขณะที่กำลังดินเนอร์ข้อเสนอสุดพิเศษของ Zero ที่ยิบยื่นให้กับ Author เกี่ยวกับเรื่องราวของเขาถึงความสำเร็จ ร่ำรวย และการได้เป็นเจ้าของโรงแรมสุดใหญ่โตนี้และนั่นเป็นจุดที่พลิกชีวิตให้กับนักเขียนคนนี้

รีวิว :
    เป็นหนังแนวนิยายที่เน้นเล่าเรื่องผ่านตับละครหนึ่ง แน่นอนก็ Author นั่นแหละ ซึ่ง เขาก็เป็นนักเขียนที่แต่งเรื่องๆ นี้ขึ้นมา โดยจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ถูกเล่าด้วยความรวดเร็ว กระชับ และเรียบง่าย แต่ด้วยการที่เป็นหนังที่ถูกสร้างให้คล้ายนวนิยายมันจึงเข้าใจง่ายด้วยเช่นกัน ไม่ใช่จากฉากภาพที่ทำให้ผู้ชมคิดจินตนาการต่อ แต่จากการบอกเล่าผ่านเสียงของตัวละคร และนี่ไม่ใช่หนังที่เล่าถึงเรื่องราวหรือการทำงานภายในโรงแรมที่น่าเบื่อ



    ซึ่งในช่วงแรกหากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบหนังแนวๆ นี้ มันอาจทำให้คุณไม่อยากที่จะดูต่อแล้วจริงๆ เพราะมันเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องด้วยการเล่าเรื่องปะปนไปกับการกระทำต่างๆ ของตัวละคร เหตุผล ความเป็นมา แรงจูงใจ แทบไม่มีอะไรที่มันถูกต้อง รวมถึงเรื่องราวของแต่ละตัวละครเองก็ไม่ได้มีการขยับขยายอะไรให้รู้จักมากเลย ซ้ำยังตับเรื่องในส่วนนี้ออกไปด้วยการเล่าว่า "มันเป็นความลับ" หรือ "เขาไม่เคยเปิดเผยมัน" แน่นอนว่าเมื่อเราสงสัยว่าตัวละครตัวนี้เป็นใครเรื่องราวเป็นมายังไงเราก็คิดว่าหนังจะแอบใส่รายละเอียดเล็กๆ ให้บ้าง แต่ในเรื่องนี้มันถูกตัดจบไปด้วยเหตุผลข้างต้นจริงๆ ครับและในเวลาไม่นาน เราก็ลืมเหตุผลนั้นไปเฉยเลย ไม่คิดอยากรู้เลยว่าตัวละครตัวนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นอะไรกับตัวละครตัวนี้หรือทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ได้ แต่ก็อย่างที่เกริ่นไว้ในข้างต้นครับ เมื่อคุณข้ามผ่านช่วง 5 นาทีแรกของหนังไปได้แล้วคุณจะลืมโลกแห่งความจริงไปเลย ผมพูดไม่ได้ว่ามันน่าเหลือเชื่อ มนสะกดของหนังได้ทำให้เราตกลงไปในหนังสือนิยาย ซึ่งมีไม่กี่ครั้งแน่ๆ ในชีวิตที่เราจะเพลิดเพลินและสนุกไปกับเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่งโดยลืมโลกความเป็นจริง และไม่ใช่ภาพการแสดงอะไรที่เป็นตัวชักจูงให้เราตกเข้าไปในหนังสื่อเล่มนั้น แต่เป็นเนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องที่ดูธรรมดาแต่ไม่น่าเบื่อเหตุการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนังถูกเรียงร้อยมาอย่างปราณีต ลำดับขั้นตอนรายละเอียดดำเนินการไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นความฝัน ความฝันที่ทุกอย่างดำเนินไปข้างหน้าเรื่อยๆ และไม่เคยกลับมาที่จุดเดิม หรือต่อให้กลับมาที่เดิมนี้ได้จริงมันก็ไม่เหมือนเดิม
    นี่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างดูหนัง ด้วยความที่มันเป็นหนังตลกแต่ไม่ได้ตลกไปเพราะมุกหรืออะไร ภาษาหลักการ คำพูดในหนัง ออกจะ สำบัดสำนวน คล้ายละครเวทีเล่าเรื่อง ใช่ครับฉากการถ่ายถอดก็เช่นกัน คล้ายคุณดูหนังละครย้อนยุคอยู่ หนังฉากเดียวกว้างๆ ที่ทุกการกระทำของตัวละครในเวลานั้นเกิดขึ้นที่นั่น แต่มันกลับสนุกและให้อารมณ์เหมือนดูละครเวทีจริงๆ
    เนื้อเรื่องไม่มีส่วนใดต้องติผมประทับใจหนังในแนวๆ นี้มาก แต่ถ้าหากจะพูดถึงส่วนที่ไม่ชอบที่สุดในเรื่องๆ นี้ ฉากที่มีแมว ถ้าหากคุณได้ดูหนังเรื่องนี้และอ่านบทความนี้และอ่านมาถึงจุดๆ นี้ คุณคงจะรู้ว่าผมพูดถึงอะไร



    สุดท้ายครับ สรุปสั้นๆ หนังดีมาก เป็นหนังถอดสมองที่น่าประทับใจมาก คุณจะมีความสุขและเพลิดเพลินไปกับทุกนาทีที่หนังเดินเรื่องไป แต่มันก็เหมือนกับกับดัก เมื่อคุณปล่อยตัวปล่อยใจให้ลอยไปกับสิ่งล่อลวงเรื่องเลวร้ายก็จะเกิดขึ้นกับคุณ ซึ่งในตอนจบนั้นมันไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้งด้วยซ้ำ อีกทั้ง ออกจะปวดใจ และเงียบหายไปดื้อๆ แต่รู้อะไรมั้ย เมื่อหนังจบ ผมอยากดูมันอีกรอบ มันวิเสษสุดๆ ไปเลย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม