Review : [ CLOUD ATLAS : หยุดโลกข้ามเวลา ] (2012)

 

ชื่อเรื่อง : CLOUD ATLAS : คลาวด์ แอตลาส หยุดโลกข้ามเวลา (2012)
กำกับโดย : ลาน่า วาโชว์สกี้, ลิลลี่ วาโชว์สกี้, ทอม ทีคแวร์
นักแสดงนำ : Tom Hanks , Halle Berry , Hugo Weaving , Jim Sturgess , แพ ดูนา (Bae Doona)และ อื่นๆ 
ดัดแปลงจากหนังสือนิยาย : เมฆาสัญจร (Cloud Atlas)
หมวดหมู่ : ดราม่า / วิทยาศาสตร์ / โลกอนาคต / แฟนตาซี
ความยาว : 86 นาที
วันที่เข้าฉาย : 12 เมษายน 2013

เรื่องย่อ : 
    ภาพยนตร์เรื่องจะนี้ประกอบด้วยเรื่องราวถึง 6 เรื่องซึ่งสอดประสานกันไปมาตลอดความยาวเรื่อง หรือเรียกง่ายๆ ว่ามี 6 ไทม์ไลน์ ซึ้งเกิดต่างกันในแต่ละช่วงเวลา จากอดีดจนถึงปัจจุบันและ อนาคต ซึ่งการกระทำหนึ่งส่งผลต่อการกระทำหนึ่งและสร้างเรื่องราวต่อเนื่องส่งผลไปถึงการกระทำอื่นๆ ซึ่งย้อนความไปตั้งแต่ยุคที่ยังมีการการเดินเรือในมหาสมุทรช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงอนาคตยุคหลังอารยธรรมล่มสลายในอนาคตอีกหลายร้อยปี โครงสร้างของการเล่าเรื่องในภาพยนตร์ต่างจากฉบับนิยายโดยภาพยนตร์เลือกใช้วิธีตัดสลับไปมาระหว่างเรื่องราวทั้ง 6 เรื่อง เพื่อให้มีความน่าติดตาม

รีวิว :
    ก่อนออื่นต้องกล่าวก่อนเลยว่าก่อนจะมาดูหนังเรื่องนี้แอบคิดว่าจะเป็นหนังการเดินทางข้ามกาลเวลาแล้วพจญภัยต่อสู้กับเหล่าร้าย แต่เอาเข้าจริงแล้วไม่ใช่เลย ซึ่งถ้าหากที่ผมกล่าวไปข้างต้นเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายของคุณแล้วละก็ คุณกำลังคิดผิด ซึ่งก็ไม่ผิด้วยเช่นกันถ้าคุณเลือกที่จะไม่ดูมัน แต่ผมขอเตือนไว้เลยว่าถึงคุณจะผิดหวังเรื่องนั้นแต่ที่จะทำให้คุณผิดหวังมากกว่าคือการที่คุณเลือกหันหลังให้หนังเรื่องนี้ต่างหาก ทำไมนะเหรอ ?? ผมจะขออธิบายต่อจากนี้นะครับ เริ่มกันเลย
    หลังจากดูหนังเรื่องนี้ ยอมรับเลยว่ามันจะทำให้คุณสับสนและปวดหัวเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะทำให้คุณไม่เข้าใจในเส้นเรื่อง เพราะแต่ละช่วงยุคสมัยมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นเยอะเหลือเกิน ชวนให้คิดชวนให้ปวดหัวมากๆ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังมีถึง 6 ไทมไลน์ หรือ 6 ช่วงยุคสมัย แต่ละยุคสมัยเล่าเรื่องต่างกันมีเป้าหมายต่างกัน แต่เรื่องราวหนึ่งจากอดีดกลายเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงอนาคตแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตามแนวคิดนี้คล้ายกับการปลูกฝังของคนยุคโบราณที่เล่าผ่านกาลเวลามาจนถึงยุคปัจจุบัน 
    ตัวละครมากมายในแต่ละช่วงเวลามีจุดมุ่งหมายที่ต่างกันเผชิญปัญหาต่างกันทั้งเรื่องดี และ เรื่องเศร้าซึ่งเป็นเรื่องปกติของหนังดราม่า แต่ที่ทำให้หนังดราม่าเรื่องนี้มีความพิเศษเพราะความดราม่าของหนังไม่ใช่เพียงแค่ความรักหรือความสมหวัง แต่มีความต้องการเป็นส่วนประกอบพิเศษ หนังจะสื่อให้คนดูเห็นว่าตัวละครมีความต้องการมากกว่าเรื่องส่วนตัว เรื่องเพศ แต่ความความต้องการที่จะเข้าใจในบางสิ่งบางอย่าง มากกว่าความรักจากหนังดราม่าเรื่องอื่นๆ ความต้องการที่จะเข้าใจในเหตุผล คล้ายกับแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่แตกต่างจากคนรุ่นเก่าเป็นเหมือนจุดกำเหนิดของมัน ของเหตุผล และแน่นอนว่านี่เป็นจุดที่ถูกวางไว้อย่างเด่นชัดของหนังแต่ใครจะมองเห็นบ้างนั้นผมก็ไม่รู้เช่นกันน่าเสียใจอย่างมาก
    ซึ้งแม้จุดจบของหนังดราม่า คุณคงจะรู้อยู่แล้วว่ามีแค่ สมหวัง และ ผิดหวัง และที่แแน่ๆ หนังดราม่าจะทำให้คุณซาบซึ้งในความรู้สึก ไม่ว่าหนังจะจบอย่างไรอารมณ์และความรู้สึกของคุณจะพุ่งกระชูดนั่งคือความลับของหนังดราม่าที่มีอยู่ในทุกเรื่อง และ สำหรับ Cloud Atlas นั้นไม่ใช่ หนังเรื่องนี้มีอยู่ 6 ไทม์ไลน์อย่างที่รู้กัน และมันมีทั้งสุข สมหวัง ทุกข์ เสียใจ ผสมกันอยู่ในหนังเรื่องเดียวและที่มันยอดเยี่ยมคือมันจบลงด้วยการจบเรื่องราวของแต่ละยุค ไม่มีคำถามต่อหลังจากนั้น มันสมบูรณ์แบบ นี่คือเหตุผลที่มันแตกต่างจากหนังดราม่าเรื่องอื่นๆ 

สรุป :
    สมราคาภาพยนตร์อิสระที่ใช้ทุนสร้างสูงสุดเรื่องหนึ่ง เป็นหนังที่จะอยู่ในความทรงจำได้แน่ๆ คุณหลายคนจะชอบมัน มันแตกต่าง เป็นหนังดราม่าที่ควรขึ้นหิ้งอีกทั้งการได้ Tom Hanks ก็การันตีแล้วว่าเป็นหนังที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม