Review : [ THE PINK PANTHER 2 : เดอะพิงค์แพนเตอร์ 2 ] (2009)

 


ชื่อเรื่อง : 
 THE PINK PANTHER 2 : เดอะพิงค์แพนเตอร์ 2 (2009)

กำกับโดย : ฮาราลด์ ซวาร์ต
นักแสดงนำ : สตีฟ มาร์ติน , ฌ็อง เรโน , เอมิลี่ มอร์ติเมอร์ และ อื่นๆ 
หมวดหมู่ : สายลับ / คอมเมดี้ 
ความยาว : 92 นาที
วันที่เข้าฉาย : 24 มกราคม 2009

เรื่องย่อ : 
    เรื่องราวการทำคดีสืบสวน สอบสวน สุดพิลึกพิลั่นดำเนินขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อจอมโจรตัวแสบอย่าง The Tornado ได้ออกอาละวาดขโมยสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำค่าจากทั่วโลกและหายสาบสูญทิ้งไว้เพียงนามบัตรให้ดูต่างหน้า รัฐบาลฝรั่งเศสไม่นิ่งดูดายพวกเขาได้รวบรวมสุดยอด Dream Team ของนักสืบขึ้นเพื่อไขคดีนี้ให้กระจ่าง ซึ่งสารวัตรคลูโซ ได้รับมอบหมายใหม่จากงานของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ภาคสนามออกใบสั่งและตรวจตราการจอดรถของผู้คนในเมือง โดยเหตุการครั้งล่าสุดของ The Tornado คือการส่งสารเตือนว่าเขาจะมายังฝรั่งเศษและขโมยเอาเพชร Pink Panther ซึ่งนั่นก็เป็นเหมือนการจุดไฟให้ยอดนักสืบคลูโซ เป็นอย่างดี ต่อมาไม่นานมีข่าวว่าเพชร Pink Panther ถูกขโมยไปจริงๆ ทำให้ยอดนักสืบคนนี้ต้องออกมาปกป้องของล้ำค่าของประเทศอีกครั้ง การสืบสวนวุ่นๆ พร้อมกับความฮษของคลูโซ่กำลังจะได้เริ่มต้นใหม่ จะวุ่นวายแค่ไหนต้องไปติดตามกัน !!

รีวิว :
    ในหนังภาคต่อภาคนี้นั้นก็ยังเน้นตัวละครหลักส่วนใหญ่จากภาคเดิมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนักสืบคลูโซ หรือ คู่หูคนสำคัญของเขาอย่าง พองตอง ทุกอย่างจะไปได้สวยงามตามท้องเรื่อง (ซะที่ไหน) ทุกอย่างแทบจะพังตั้งแต่แรกเริ่มเลย แม้จะห่างกันมาถึง 3 ปี จากภาคแรกแต่ทุกอย่างกลับเหมือนเดิม นี่คือความรู้สึกแรกหลังจากดูหนังเรื่องนี้ได้ 10 นาที เขายังเป็นคนเดิม คนรอบข้างก็ยังเป็นคนเดิม เหมือนหนังเพิ่งถ่ายเสร็จหลังจากฉายภาคแรกเลย พระเจ้าหนังทำได้จี้มาก ทุกคนต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่านี่เป็นหนังภาคต่อที่ผู้กำกับคนละคนกันแต่หนังออกมาได้ไหลลื่น และ ราวกับเป็นตอนที่ 2 ต่อจากตอนแรกมากกว่าหนังภาคต่อด้วยซ้ำ
    ในรูปแบบโดยทั่วไปที่สังเกตุได้จากหนังคืองานภาพก็ยังเป็นสไตล์คล้ายเดิมไม่ต่างจากภาคแรกมากนัก แต่จะมีการเพิ่มฉากต่างๆ ให้สวยงามมากกว่าเดิม ส่วนใหญ่จะเป็นคล้ายภาพวิว ในการเดินเส้นเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ดูเป็นการสืบสวนมากกว่าภาคก่อนมีการวางแผน มีทีมงาน เรื่องค่อยๆ ถูกไขไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่ก็มีการแทรกมุขตลกเข้าไปได้อย่าลงตัว ไม่ดูน่ารำคาญเลยสักนิด
    สุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็จบแบบตามพล็อตเรื่องที่ทุกคนน่าจะรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วและหนังเรื่องนี้ก็ได้เผยให้เห็นตัวของผู้ต้องสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว แต่นั่นก็ไม่แปลก ที่แปลกแต่จริงก็คือการที่หนังตลกแต่ยังสามารถคงเอกของหนังสืบสวนเอาไว้ได้อย่างดี ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับหนังสืบสวนสุดตลกที่พอจะนึกออกเป็นอันดับแรกคือหนังเรื่อง Scooby-doo ซึ่งก็จะพบความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ หนังเรื่องนี้ตลกได้มากกว่า แต่ในทางกลับกันมันกลับไม่น่ารำคาญเลย มากกว่านั้นคือมันสนุกเสียด้วยซ้ำ

สรุป :
    ก็ยังเป็นหนังตลกที่ยังหาเหตุผลไม่ได้ แต่ไม่เป็นหนังที่แย่แน่ๆ ขอรับประกันเลยว่า คุฯจะไม่ผิดหวังถ้าดูหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ดีและควรค่ามาก คุณจะจดจำมันได้แน่ๆ ขอแนะนำให้ดูทั้งภาค 1 และ ภาค 2 เลยครับ สนุกมากๆ ถึงเหตุผลมันจะดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ใช่ไม่มีนะอีกทั้งยังตลกซะด้วย ลงตัวจริงๆ 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม