Review : [ THE MAGNIFICENT SEVEN : 7 สิงห์แดนเสือ ] (2016)

          



ชื่อเรื่อง : THE MAGNIFICENT SEVEN : 7 สิงห์แดนเสือ (2016)

กำกับโดย :  Antoine Fuqua
นักแสดงนำ : Denzel Washington , Chris Pratt , Ethan Hawke , Vincent D'Onofrio , Byung-hun Lee , Manuel Garcia-Rulfo , Martin Sensmeier , Peter Sarsgaard , Haley Bennett และอื่นๆ
ดนตรีประกอบ : James Horner , Simon Franglen
หมวดหมู่ : แอ็คชั่น / ย้อนยุค
ความยาว : 133 นาที
วันที่เข้าฉาย : 23 กันยายน ค.ศ. 2016 (สหรัฐอเมริกา)

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง :
     The Magnificent Seven เป็นภาพยนตร์แนว แอคชั่น ย้อนยุคตะวันตก สัญชาติอเมริกา ออกฉายเมื่อปี 2016 กำกับโดยผู้กำกับมากฝีกมืออย่าง Antoine Fuqua เขียนโดย Nic Pizzolatto และ Richard Wenk ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกรีเมคจากภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อเดียวกันในปี 1960 ซึ่งดัดได้แปลงมาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Seven Samurai หรือ 7 เซียนซามูไร ที่โด่งดังในปี 1954 นั่นเองหนังเรื่องนี้ได้คว้าตัวนักแสดงนำมากมายมาร่วมแสดง ได้แก่ Denzel Washington , Chris Pratt , Ethan Hawke , Vincent D'Onofrio , Lee Byung-hun , Manuel Garcia-Rulfo , Martin Sensmeier , Haley Bennett และ Peter Sarsgaard ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการทำงานร่วมกันกับนักประพันธ์เพลง เจมส์ ฮอร์เนอร์ (James Horner) ครั้งสุดท้ายซึ่งเขาเสียชีวิตลงเมื่อปี 2015 หลังจากได้เริ่มแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ไปได้ส่วนหนึ่ง โดยได้รับ Simon Franglen เพื่อนของเขาเข้ามาดำเนินการแต่งเพลงต่อให้เสร็จและใช้ในภาพยนตร์

เรื่องย่อ :
    ย้อนกลับไปในยุคตะวันตก คาวบอย อินเดียนแดง กองโจร และผู้มีอำนาจ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เหนือกฏหมาย การจะควบคุมอะไรก็ตามที่มีอำนาจมากกว่ากฏหมายไม่ใช่เรื่องง่าย บ้างต้องเสียสละ บ้างต้องหลบหนี แต่เมื่อชายคนหนึ่งที่อดทนต่อคำเรียกร้องของประชาชนไม่ไหว มือปราบจากแดนไกลที่มีอดีดอันแสนขมขืน เดินทางเข้ามายังดินแดนที่ถูกปกครองโดยมหาอำนาจที่ยากจะโค่น เขาได้ออกตามหาและรวบรวมยอดฝีมือจากทั่วทุกตารางเมตรบนแผนที่ เพื่อจะต่อสู้และคืนความสงบสุขให้แก่ผู้คนในแถบนั้นอีกครั้ง เรื่องราวการต่อสู้กับกลุ่มผู้มีอำนาจมากล้นของ 7 สิงห์แดนเสือ จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกัน !!

รีวิว : 
    เป็นหนังแนวแอ็คชั่น ย้อนยุคตะวันตก ที่ดูไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ในเรื่องของบรรยากาศ โดยถ้ามองในมุมมองของหนังแอ็คชั่นทั่วไปหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าดูดี แต่หากจะมองหาความเป็นคาวบอยตะวันตก หนังเรื่องนี้ถือว่ามีบางอย่างที่ทำให้ส่วนนั้นไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ มีบางอย่างขาดหายไป ดูคล้ายเป็นหนังทั่วไปที่ตัวละครแต่งตัวย้อนยุคเฉยๆ
   ในส่วนของตัวละครตั้งแต่เริ่มเรื่องหนังจะยังไม่เผยให้เห็นถึงตัวละครหลักของเรื่อง แต่จะค่อยๆ ไล่แสดงออกมาทีละตัวๆ อย่างช้าๆ ซึ่งระหว่างนั้นก็จะมีตัวละครประกอบเผยออกมาทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งก็เยอะมากแต่มันไม่ค่อยสำคัญนัก ในส่วนนี้ก็อาจจะทำให้เราสับสนในเรื่องของตัวละครบ้าง ซึ่งกว่าหนังจะแสดงตัวละครหนักที่ใช้ในการดำเนินเรื่องครบก็เกือบครึ่งเรื่องเลยทีเดียว
    ส่วนมาหนังเรื่องนี้จะนำเสนอในส่วนประเด็นหลักของยุคนั้นซะมากกว่า เรื่องความความรุนแรง การขดขี่ข่มแหงจากผู้มีอำนาจ มีเงิน ซึ่งก็จะมีการต่อสู้ ยิง และ ใช้อาวุทธิกันให้เห็นแทบตลอดทั้งเรื่อง และแน่นอนเมื่อพูดถึงการรวมตัวของกลุ่มคาวบอยแล้วย่อมมีการกระทบ กระทั่ง ขัดแย้งกัน และ มิตรภาพให้เห็นอยู่แน่นอน แม้จะไม่มาก เพื่อปลูกฝังให้เราผูกพันกับตัวละครหลักเหล่านั้นนั่นเอง
    สำหรับฉากต่อสู้หรือฉากบู้แอ็คชั่นส่วนใหญ่ก็จะใช้ปืนใส่การยิงซะมากกว่าตามแบบฉบับหนังตะวันตก จึงจะไม่ค่อยมีฉากแบบบู้เข้าไปต่อสู้ประชิดตัว ต่อสู้ยืดเยื้อ ให้ลุ้น ให้ตื่นเต้นมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแบบดวลปืน โป้งเดียวดับไปเลยสไตล์หนังตะวันตกมือปืนคาวบอย และก็จบไปเพียงเท่านั้น
    ซึ่งบทสรุปก็คงอย่างที่รู้กันแต่ระหว่างนั้นจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปรับชมกันเอาเองนะ เพื่อไม่ใช้หนังเสียรสชาติแต่ในช่วงตอนจบนั้นนับว่าน่าประทับใจสุดๆ บอกได้เลย
    
สรุป : 
    เป็นหนังแอ็คชั่นสนุกๆ สำหรับดูวันหยุดหรือฆ่าเวลาก็ดี ช่วยสร้างความบรรเทิงในยามว่างได้ดีไม่น้อย หนังเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม