Review : [ THE KING’S MAN : กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน ] (2022)

                    



ชื่อเรื่อง : THE KING’S MAN : กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน (2022)

กำกับโดย :  แมทธิว วอห์น
เขียนบท :  แมทธิว วอห์น , คาร์ล กาจดูเซก
อำนวยการสร้าง : แมทธิว วอห์น , เดวิด เรด , อดัม โบห์ลิง
นักแสดงนำ : เรล์ฟ ไฟนส์ , เจมมา อาร์เทอร์ตัน , รีส อีวันส์ , ดานีเอล บรืล , จีมง อูนซู
ดนตรีประกอบ : แมทธิว มาร์กีสัน , โดมินิก ลิวอิส
หมวดหมู่ : แอ็คชั่น / สายลับ
ความยาว : 119 นาที
วันที่เข้าฉาย : 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2021

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง :
     กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน : The King's Man เป็นภาพยนตร์แนว แอ็คชั่น / สายลับ ที่เป็นผลงานกำกับร่วม ซึ่งอำนวยการสร้าง พร้อมทั้งเขียนบท โดย แมทธิว วอห์น ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเป็นภาพยนตร์ปฐมบทของภาพยนตร์ชุด คิงส์แมน โดยมีเค้าโครงจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกัน คิงส์แมน ซึ่งเขียนโดย เดฟ กิบเบินส์ และ มาร์ก มิลลาร์ 

เรื่องย่อ :
    ภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาสู่โลก เมื่อมหาวายร้ายที่มุ่งหมายจะล้างบางมวลมนุษยชาติให้หมดสิ้นไป บุรุษคนหนึ่งพร้อมด้วยลูกชายสุดที่รักของเขาจะต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกนี้ไว้ให้ปลอดภัย ภายในเวลาสุดลุ้นระทึก ภารกิจแรกเพื่อปกป้องโลกแบบมีสไตล์ จุดเริ่มต้นขององค์กรโคตรพยัคฆ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โหดที่สุด และ เก่งกาจที่สุด The King's Man : กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน 
    
รีวิว : 
    เริ่มเรื่องอาจเป็นไปด้วยความงุนงงเล็กน้อย เพราะกว่าหนังจะเปิดเผยว่ามีอะไรเกิดขึ้น หรือ เรื่องราวเป็นอย่างไรก็กินเวลาไปสักพักใหญ่ๆ ซึ่งในช่วงนั้นก็จะมีเพียงฉากพูดคุยกันของตัวละครที่จะบอกว่าตัวละครหลักนั้นต้องทำอะไร มีหน้าที่อะไร ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยถึงต้นตอของสิ่งที่พวดเจาต้องเผชิญ หรือ กำลังเผชิญอยู่เลยจู่ๆ เหตุการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้นวุ่นวายไปหมด แล้วก็จบลงด้วยการตายของตัวละครใดตัวละครหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตัวละครหลักในอนาคต ตามสูตรเลย
    ซึ่งในระหว่างนั้นหนังก็จะบรรเลงดนตรีอิปิคที่ให้ความรู้สึกอินกับบรรยากาศการศูนย์เสีย และ สร้างแรงบรรดาลใจในอนาคต และ หนังก็จะตัดสลับฉากมาเล่าเรื่องของตัวละครหลัก สลับกับการวางแผนทำลายโลกของเหล่าตัวร้าย ซึ่งในตอนแรกก็ยังไม่มีการเปิดเผยตัวว่าต้องการอะไร
    หลังจากนั้นหนังก็จะเริ่มเผยความจริงออกมาทีละเล็กทีละน้อย เล่าถึงตัวละครต่างๆ อธิบายความเป็นมาว่าตัวละครนั้นๆ มีปม มีความลับอะไรซ่อนอยู่ 
    สำหรับงานภาพก็ถือว่าทำได้ดีนะครับ ดูสวยงามและให้บรรยากาศย้อนยุคดีได้ พร็อพของเรื่องการตกแต่งฉากทำได้สวยงานและดูดีเอามากๆ แอบประทับใจเล็กน้อยถึงบางส่วนจะดูแบบขัดๆ ไปบ้างแต่ก็ไม่เป็นไร สำหรับตัวละครก็อย่างที่เรารู้ๆ กันตัวละครหลักมักจะคงมาดผู้ดี สมาร์ทไว้อยู่เสมอ ซึ่งก็เราเห็นมาตั้งแต่ภาคแรกๆ แล้ว แต่สำหรับผมที่ประทับใจเอามากๆ เลยคงหนีไม่พ้น รัสปูติน ซึ่งอาจเป็นเพราะผมชอบในเรื่องราวของตัวละครนี้อยู่แล้วจึงคาดหวังเป็นพิเศษหน่อยๆ ซึ่งผลออกมาก็คือนักแสดงเล่นได้ดีมาก การตกแต่ง เครื่องแต่งตัว รายละเอียดตลอดไปจนคราบเปื้อดที่เล็บให้ดูเหมือนเป็นคนที่ทำงานหมกมุ่นดี ดูมีความวิกลจริตอยู่บ้าง อีกทั้งยังเยือกเย็น ดูเย็นฉา แถมอัตราย ดูมีความน่าสะพรึงอยู่ในทุกคำพูด ชอบมากจริงๆ เล่นได้ดีมากครับ
    ในส่วนของเสียงเพลง และ ดนตรีประกอบนั้น ในบางช่วงก็ดูขัดๆ อยู่บ้างแต่ก็ต้องยอมรับว่าบางทีเสียงสำหรับดึงเข้าช่วงบางช่วงนั้นทำได้ดีมากๆ แถมไม่พร่ำเพื่อจนเกินไปอีกด้วย
    สำหรับฉากต่อสู้ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหนังเรื่องนี้มีมุมมองการทำฉากแฮ็คชั่นที่แตกต่าง แปลกใหม่ ดูสนุกเพลิดเพลิน แถมยังดุเดือดเลือดสาด ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยได้เห็น
    โดยภาพรวมแล้วหนังดูค่อนข้าวน่าเบื่อในช่วงแรก ซึ่งเป็นช่วงเล่าเรื่อง แต่หลังจากนั้นพอหนังเริ่มเข้าสู่เส้นเรื่องหลักความน่าตื่นเต้น และ สนุกสนาน ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องบอกเลยว่าเป็นหนังคุณภาพจริงๆ และ หลายๆ อย่างค่อนข้างโอเคมากๆ ไม่มีข้อติดขัดใดๆ เลย
    
สรุป : 
    เป็นหนังที่ดีเหมาะสมกับคำชมอย่างยิ่ง สนุก ดูลุ้น และ น่าตื่นเต้น สามารถใช้ดูช่วงวันหยุดพักผ่อนที่บ้านได้ หนังมีข้อคิดคอยสอนใจด้วยนะ ♥

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม